ขีดจำกันของคุณเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของคนอื่น - Break Out

พยายามมามากแต่ก็แพ้คนอื่น

ตอนเด็กๆผมชอบแข่งขันเสมอเพราะการแข่งขันตอนเด็กเป็นอะไรที่สนุกไม่ว่าจะแข่งวิ่ง แข่งกิน แข่งเล่นเกมส์ แข่งเรียน ไม่ว่าจะแพ้จะชนะมันเป็นอะไรที่สนุกและภาคภูมิใจที่ได้แข่งขัน แต่เมื่อโตมาการแข่งขันเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันสอบเข้า การแข่งขันชิงทุน ซึ่งเป็นอะไรทียิ่งใหญ่เอาเสียมากๆ หลายครั้งที่ไปแข่งขันแล้วก็แพ้ซึ่งเป็นการแพ้แบบหมดรูป ตอนนั้นก็ได้แต่บอกว่าเฮ้ยเราพยายามมากแล้วแต่ทำไมแพ้วะไม่ยุติธรรมเลย แต่จริงๆผมก็รู้อยู่ลึกๆในใจว่า ผมพยายามไม่มากพอ

ขีดจำกันของคุณเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของคนอื่น - Break Out

อ่านตามคำแนะนำ

ที่อ่านหนังสือเรื่อง ขีดจำกันของคุณเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของคนอื่น นี้ก็เพราะเพจ tactschool แนะนำให้อ่าน พอเริ่มอ่านก็เริ่มโดนไม้ฟาดหน้าจากหนังสือเลย หนังสือเล่าเรื่องของคนแต่งซึ่งเป็นหญิงจีนยุคใหม่ซึ่งเธอเล่าถึงความลำบากยากเข็ญในช่วงตอนที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยที่ต้องทำงานหาเงินไปด้วยเรียนไปด้วย และการทำงานของเธอนี่ดูหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว พออ่านเรื่องของเธอเท่่านั้นภาพของคนใกล้ตัวของผมก็โผล่ขึ้นมาซึ่งนั่นคือพ่อกับแม่ของผม คนแรกคือพ่อตอนเด็กผมเห็นพ่อไปทำงานทุกวันไม่มีวันไหนที่พ่อไม่ใส่ชุดทำงานออกไปทำงาน จันทร์ถึงศุกร์โอทีกลับสามสี่ทุ่ม เสาร์อาทิตย์ก็ไปทำงาน จนตอนนั้นผมคิดว่าการทำงานนั้นต้องทำทุกวันไม่มีวันหยุด ต่อมาคือแม่ ภาพจำของผมเกี่ยวกับคือแม่ที่ต้องตื่นมาทำกับข้าวให้พ่อตั้งแต่เช้าไม่นานก็ไปเย็บผ้าต่อ แม่เล่าว่าตอนมากรุงเทพแม่ไม่มีแม้แต่รองเท้าใส่มา นี่เป็นส่วนแรกของความพยายามที่ผมคิดว่ายังไปไม่ได้ถึงเศษเสี้ยวของพ่อแม่กับแม่

สังคมแห่งการแข่งขัน

ในปัจจุบันนั้นเป็นสังคมแห่งการแข่งขันจริงๆ แข่งขันกันหาที่เรียนดีๆ แข่งขันหาที่ทำงานดีๆสบายๆ หนังสือเล่มเล่าเรื่องได้เห็นภาพสังคมจีนที่คนเยอะ พอคนเยอะแต่ที่เรียนน้อย ที่ทำงานน้อยแต่ละคนก็ต้องแข่งขัน บางคนแข่งขันด้วยความรู้้ไม่ได้ก็ใช้แรงกายทำงานหนักยันดึกยันดื่น ที่น่าแปลกคือไอคนที่เราคิดว่าน่าจะอยู่สบายๆอย่างลูกผู้ดีมีเงินที่เราฝันว่าถ้าเกิดเป็นลูกคนรวยจะนอนนิ่งๆอยู่บ้านสบายๆ คนพวกนี้กลับกลายเป็นคนที่ขยันแบบสุดๆ หยุดเสาร์อาทิตย์ไปเรียนเพิ่มหาความรู้ เย็นมีเรียนพิเศษต่อ ต้องหาความสามารถพิเศษเพิ่มตลอดเวลา ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ที่พ่อแม่ของเขามีส่วน แต่เด็กเองมันก็ดันอยากไปด้วยนี่สิที่ประหลาด แต่พอมามองดูดีๆ คนที่สำเร็จในสังคมที่เป็นลูกคนรวยเขาก็ไม่ได้อยู่ดีๆเก่งขึ้นมา ก็เห็นเขามีต้องไปเรียนโน่นนี่เพิ่ม ความสามารถเขาก็เยอะอยู่สมการเป็นลูกคนรวย

ไม่มีสูตร ไม่มี Action Reply

จากการอ่านหนังสือหลายๆเล่มเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองหรือหนทางไปสู่ความสำเร็จหรือหนังสือการลงทุน หนังสือทุกเล่มเขียนเหมือนกันว่า ทุกความสำเร็จมาจากการพยายามซึ่งใช้ระยะเวลานานไม่ใช่ชั่วข้ามวัน แต่เรามักชอบความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ต้องใช้ความพยายามมาก การ์ตูนหลายเรื่องก็เอาเรื่องแนวนี้มาขาย พวกพระเอกที่อยู่ดีๆก็เก่ง พวก Loser จากโลกเก่าพอตายไปเกิดแล้วก็เทพ การ์ตูนพวกนี้มักจะขายดีเพราะมันถูกใจเรา เพราะพยายามนิดๆหน่อยๆก็เก่งแล้ว เราก็อยากเก่งแบบนั้น แต่ในโลกความเป็นจริงกว่าจะทำอะไรจนสำเร็จนั้นต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และระยะเวลา อีกทั้งทุกอย่างที่เราทำไม่ได้การันตีความสำเร็จเสียด้วย แล้วใครมันจะอยากทำล่ะ ทำอะไรธรรมดาๆแล้วฝันถึงความสำเร็จง่ายๆจะสบายใจกว่า

อ่านแล้วได้อะไร

อ่านเล่มนี้ไปก็เจ็บไปเหมือนโดนไม้ฟาดหน้าตลอดทุกบทที่อ่าน เรื่องจริงไม่ได้สูตรลัดเหมือนในเกมส์ ไม่เหมือนการ์ตูน อยากสำเร็จก็ต้องพยายาม และการพยายามนี้ไม่ใช่การพยายามแบบเหยาะแหยะแต่เป็นความพยายามที่ต้องตั้งใจ ทุ่มเท และต้องใช้ระยะเวลานาน ในหนังสือมีข้อความนึงที่ผมชอบมากคือ “ทุกครั้งที่คุณกำลังนอนดึก พยายามอย่างไม่หยุดหย่อน ขอให้คิดเสมอว่าตอนนี้ยังมีผู้คนที่กำลังพยายามเหมือนเรา เพื่อจะไปสู่ความสำเร็จ”