The Dumb Waiter

The Dumb Waiter

ละครเวทีอีกรอบ

ตั้งแต่ต้นปีที่ได้มีโอกาสไปเจอใบปลิวเกี่ยวกับละครเวทีฟรีที่จุฬา ตั้งแต่นั้นก็ได้ไปชมละครเวทีฟรีทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งถามว่าทำไมต้องฟรีก็ว่าง่ายๆอะครับ ไม่อยากเสียเงิน รอบนี้ก็เป็นอีกรอบที่ไปดู บรรยากาศเมื่อไปถึงคือ เฮ้ย ทำไมคนเยอะจังวะ เยอะมากครับ ผมเคยมาดูรอบประมาณสำหรับเรื่องอื่นนี่เกือบจะไม่มีคนเลย ประมาณว่าจะเลือกนั่งตรงไหนก็ตามใจเลย รอบนี้เนื่องจากคนเยอะทำให้นั่งเกือบบนสุด แต่ก็ดีนะได้บรรยากาศใหม่เพราะปกตินั่งหน้าตลอด รอบนี้เลยได้ดูจากมุมสูงได้เห็นอะไรเยอะขึ้น

เนือย เนือย เนือย

ละครเริ่มก็บอกถึงความเนือยเลยครับ ในช่วงแรกนี่แบบเนือยมากไม่มีอะไรให้น่าสนใจ 5 นาทีแรกเราอยู่กับความเงียบ นั่งดูการเคลื่อนไหวไปมาของนักแสดง บทสนทนาก็ดูอึดอัด ฝ่ายหนึ่งถาม ฝ่ายหนึ่งไม่ตอบ ฝ่ายหนึ่งถาม ฝ่ายหนึ่งตอบไม่ตรง ดูแล้วมันขัดอารมณ์มาก ละครต้องการบอกอะไรก็ไม่รู้ ลากยาวไปตอนกลางเรื่องก็ค่อยมีเรื่องให้น่าติดตามว่าทำไมถึงมีของส่งลงมา แต่ประเด็นมันอยู่ที่ ทำไมตัวละครต้องแบบนั้นด้วย แม่งโคตรไม่สมเหตุสมผล ดูไปเรื่อยๆจนจบก็ไม่มีข้อสรุปอะไรสักอย่าง จบแบบงงๆ

งง แล้วก็ งง

บอกตามตรงพอละครจบนี่ไม่อยากปรบมือเลยนะคือมันหงุดหงิดจริงๆนะเวลาเจอละครแบบนี้ แต่พอมาคิดก็ เขาอุตส่าห์แสดง เตรียมงาน ฝึกซ้อม มันคือการพยายาม ก็เลยปรบมือให้เรื่องพวกนี้แทน จากนั้นเดินออกจากโรงแบบเหงาๆ รอบนี้ไม่มีใบประเมินก็เลยเดินตรงกับบ้าน ด้วยความสงสัยเลยเข้าไป Search ว่าเรื่องนี้เขาแต่งขึ้นเอง หรือไปเอาบทละครที่มีอยู่แล้วมาเล่น ซึ่งพอค้นหาก็พบว่าเป็นบทละครที่มีอยู่แล้ว ตามลิ้งนี้เลย ซึ่ง Search ไป Search มามีทำเป็นหนังด้วยนะ

ซึ่งพออ่านคร่าวๆก็พบว่าเนื้อเรื่องเขาเขียนแบบนั้นจริงๆ ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าคนเขียนเขาต้องการสื่ออะไร คงจะต้องไปหาอ่านแบบจริงๆจังๆว่าเขาหมายความว่าอะไร ส่วนตัวนักแสดงผมว่าเล่นได้ดีนะ แบบคนนึงก็กวนได้ดีจริงๆ ส่วนอีกคนก็ช่างถาม แล้วก็เล่นได้โอเคมากเลยนะ ที่ติมีอย่างเดียวคือเนื้อเรื่องเนี่ยแหละที่ตกลงมันต้องการสื่ออะไรกันแน่ อ้อ แล้วถ้าใครอ่าน Blog ผมแล้วเจอโปรแกรมเมอร์ใส่แว่นเดินไปดูละครเวทีที่จุฬาก็ทักได้นะครับ เผื่อว่าเราดูละครจบแล้วจะได้คุยกันว่า ตกลงมันหมายความว่าอะไรวะ