ความทรงจำปี 2021

ปี 2021 ที่ผ่านมา

สำหรับปีนี้มาเขียนบันทึกเกี่ยวกับปีที่ผ่านมาช้ากว่าปกติเพราะป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล จะลุกมาเขียนอะไรแบบนี้ไม่น่าจะรอด ก็เลยมาเขียนหลังจากปีใหม่ไปแล้วแทนละกัน สำหรับปี 2021 นั้นมันไวมาก ไวแบบไวจริงๆ ผมยังจำเป้าหมายที่จะทำตอนปี 2021 ได้อยู่เลยว่าอยากจะทำอะไร ซึ่งพอมาดูแล้วบอกเลยว่าไม่สำเร็จสักเป้าหมาย

งาน

สำหรับปีนี้เรื่องงานนั้นถือว่าเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา มีเจ็บใจในหลายๆงานที่เราพยายามตั้งใจทำเต็มที่ แต่สุดท้ายกลับไม่มีคนใช้เนื่องจากคุยทางธุรกิจไม่ลงตัว คือแบบเราเขียนใส่ทุกความรู้ความสามารถ Design พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดแต่กลับไม่ใช้เพราะเหตุผลอะไรแบบนี้ แต่ถ้ามองในแง่ดีก็คือเราไม่ต้องมาคอย Maintain มัน อีกทั้งยังเป็นบทเรียนให้กับผู้บริหารที่อยากทำ อยากขาย ให้เขาคิดให้เยอะกว่าเดิม ประเมินว่ามันเป็นไปจริงรึเปล่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาพัฒนา Application แล้วไม่ได้ใช้แบบนี้

ส่วนเรื่องที่ท้าทายก็เป็นการพยายาม Set up “Minio” ขึ้นมาใช้กันเองในระดับ Production เพื่อบริการลูกค้าที่ต้องการเก็บข้อมูลที่ต้องการเก็บแบบยาวนานและต้องเก็บในประเทศไทย แถมที่เราจะทำกันนี่คือทำไม่ได้ Set up แบบที่คนส่วนใหญ่ทำกัน เช่นใช้ Kubernetes ใช้ VM Ware ทำ แต่ที่เราทำทำโดยใช้ Docker swarm เสียด้วย ซึ่งตอนทำก็สนุกกับการลองผิดลองถูก ไล่อ่าน Manual ว่ามัน Set ยังไง ทำความเข้าใจ Concept ของมัน แต่สุดท้ายบริษัทก็ไม่ได้ตัดสินใจใช้ตัวที่เราทำเพราะมันต้องดูแลเยอะกว่า แล้วก็อาจเกิดปัญหาที่เราไม่เคยเจอ จะบริการลูกค้าก็อาจจะเกิดปัญหาและทำให้ลูกค้าไม่พอใจ ดังนั้นการเลือกเจ้าที่เขาเคยให้บริการลูกค้ามาแล้วมาประสบการณ์น่าจะตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่า

ส่วนตำแหน่งก็ยังคงอยู่ตำแหน่งเดิมไม่เลื่อนไปไหน ซึ่งสำหรับก็ถือว่าโอเคนะ เพราะได้ทำงานที่ตัวเองชอบจริงๆ ไม่ต้องไปทรมานกับงานที่ไม่ชอบ

สำหรับปีนี้ก็มีตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับงานไว้ว่าจะลองเริ่มทำ Kubernetes cluster ใช้กันเองภายในเพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนผ่านจาก Docker swarm ไปใช้ Kubernetes ในอนาคตที่บริษัทอาจจะย้ายไปใช้ Cloud หรือ Hardware พร้อม Kubernetes solution

ความรัก

ตอนปีที่แล้วเคยเขียนไว้ว่าเจอผู้หญิงคนนึงที่ชอบมาก แต่ตัดสินใจว่าจะไม่จีบเพราะดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ ก็เลยแค่มองห่างๆ พยายามช่วยเหลือเท่าที่เราพอช่วยเขาได้ แต่ทุกสิ่งที่ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง วันนึงเขาก็จากไป จากไปแบบที่เราคิดว่าไม่น่าจะได้เจอเขาอีก ตอนนั้นสมองก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าปล่อยไปแบบนี้ตัวเราจะไม่มีโอกาสพูดสิ่งที่เราอยากบอกกับเขาอีกแล้วนะ มันไม่มีโอกาสที่สองอีกแล้ว ถ้าจะทำก็ทำซะตอนนี้” ตอนนั้นก็เลยบอกความในใจกับคนที่ชอบ (ผ่าน LINE เนื่องจากสถานการณ์ โควิด) ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นไปอย่างที่คิดไว้แหละ คือเราก็ไม่ได้จีบเขาแบบจริงจัง ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไร Life style ก็ไม่เหมือนกันก็สมควรที่เขาจะตอบแบบนั้น

ส่วนคนที่ชอบอีกคนก็ได้จากไป สำหรับคนนี้เป็นความชอบที่ประหลาดมากๆ เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ตรงสเปคอะไรที่ผมเคยตั้งไว้เลย แต่คนนี้เป็นผู้หญิงที่มีนิสัยที่ผมชอบมาก และที่ประหลาดกว่านั้นก็คือผู้หญิงที่ผมชอบคนนี้เขามีแฟนแล้ว คุณอ่านไม่ผิดครับ “เขามีแฟนแล้ว” แต่ผมก็บอกกับผู้หญิงคนนี้เสมอเลยนะว่า “ถ้าเลิกกับแฟนเมื่อไหร่ก็บอกนะเราพร้อมจีบเสมอ” ซึ่งจริงๆมันก็เป็นไปไม่ได้แหละครับ และผมก็ไม่อยากให้เขาเลิกกันด้วย เพราะผมก็เห็นว่าเขามีความสุขมาก ถ้าเขาเลิกกันคนที่ผมชอบคงไม่มีความสุขแน่ๆ ถ้าถามหาตัวอย่างการเห็นคนที่เราชอบมีความสุขกับคนอื่นเป็นแบบไหนก็คงจะเป็นกรณีนี้แหละที่ทำให้ผมเข้าใจได้ดี

สุดท้ายสำหรับตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปยังไงต่อ เพราะตอนนี้เราก็ยังสงสัยกับความรู้สึกรักที่เหมาะสมกับเรานั้นมันคืออะไร ก็คงจะต้องลองค้นหา เรียนรู้กันต่อไป

ตามศิลปิน

ปีนี้รู้สึกเสียเงินกับศิลปินเยอะมากๆจนเริ่มคิดว่า “เฮ้ย ต้องลดลงแล้วนะ” ก็เลยเริ่มลดกิจกรรมพวกนี้ลง คัดเหลือเฉพาะคนที่เราอยากสนับสนุนจริงๆ แล้วของที่ได้ต้องคุ้มกับราคาที่เราเสียไปด้วย ตอนนี้วงที่คอยสนับสนุนคงเป็นวงของค่าย SETL Entertainment (ค่ายนี้ทำวง meltmallow มาแล้ว เพลงดีทุกเพลง) เพราะค่ายนี้ทำเพลงดีมีความหมาย ก็ถ้าใครอยากฟังเพลงเพราะความหมายดี ตั้งใจทำเพลงแบบจริงๆผมก็แนะนำเพลงและศิลปินจากค่ายนี้เลย

สุขภาพ

ปีนี้เป็นปีที่ร่างกายรับบทหนักมาก เริ่มจากเป็นโควิดก่อนเลยคือเป็นแบบไม่คาดคิดไม่คาดฝันตัวเองก็ WFH อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนหลายเดือนแต่มาติดเพราะที่บ้านเปิดร้านซ่อมจักรยาน คนที่มาซ่อมจักรยานนั้นเป็นก็เลยส่งต่อมาให้คนในบ้าน ตอนที่รู้ว่าเป็นนี่คือสิ้นหวังมาก เพราะโทรไปติดต่อไปที่โรงพยาบาลไหนก็ไม่มีเตียง ที่บ้านก็มีผู้สูงอายุอยู่หลายคน โทรไปหาหน่วยงานของรัฐให้ส่งยามาให้ก็ดำเนินการช้ามาก จนแบบนี่เราจะรอดกันไหมวะ สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือจากคนรู้จัก เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกัน คนที่บริษัท ญาติ ก็หาทางติดต่อขอความช่วยเหลือจากช่องทางเอกชนและโรงพยาบาลที่ไม่อยู่ในเขตที่เราอยู่ ( ผมไม่ใช่คนกรุงเทพ แต่ได้รับความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลศิริราชในกรุงเทพ) จนสามารถหาเตียงและได้ยามาช่วยคนในบ้านให้รอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ ส่วนของที่ระลึกการเป็นโควิดของผมครั้งนี้ก็คือปอดที่เสียหายไปจากการที่เชื้อลงปอด ตอนรู้ว่าปอดเสียหายนี่แบบร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว มาปอดเสียอีก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ชีวิตมันจะบัดซบอะไรขนาดนั้น

แต่ความซวยยังคงดำเนินต่อไป ตอนเกือบๆสิ้นปีอยู่ดีๆก็ป่วยเป็นไข้แล้วเป็นไข้แบบไม่หายด้วยนะ เป็นติดต่อกันหลายวันมากๆ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นโควิดอีกรอบ แต่ไปตรวจ RT-PCR แล้วไม่ได้เป็น จนสุดท้ายเลยตัดสินใจลอง Admit นอนโรงพยาบาลให้น้ำเกลือกับดูอาการแบบละเอียด พอหมอเจาะเลือดไปตรวจก็พบว่าเป็นไข้เลือดออก “ไข้เลือดออก” เลยต้องนอนโรงพยาบาลเป็นของขวัญรับปีใหม่

อารมณ์

ปีนี้เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่อารมณ์เย็นลงไม่ขึ้นง่ายแบบสมัยก่อน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเริ่มมีอายุแล้ว (หนังสือเกี่ยวกับสมองที่เขียนโดยหมอที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับสมองได้พบว่าสมองมนุษย์จะเริ่มหยุดเจริญเติบโตเมื่ออายุประมาณเกือบ ๆ 30) อีกทั้งเมื่อต้องมาเจอปัญหาหลายๆอย่างที่ใช้เฉพาะ Logic แก้ไม่ได้ แต่ต้องใช้เวลาร่วมในการแก้ไขด้วย การจะใช้อารมณ์ร้อนเพื่อหักให้จบอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป การใจเย็นค่อยๆคิดค่อยๆแก้ปัญหา คิดหาวิธีที่หลากหลายและเหมาะสมมากกว่าแตกหักกันอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ก็ใช่ว่าความเดือดมันจะลดลงนะ มันเดือดแต่พอใช้เหตุผลมาคิดการเดือดแลัวหักมันไม่คุ้มค่าพอก็เลยไม่ทำ แต่ถ้าเรื่องไหนมันเดือดแล้วแตกหักมันดีกว่าผมบอกว่า “แตกหัก” แน่นอน

ทำช่อง Youtube ทำ Podcast

จริงๆผมก็ทำ Blog มาหลายปีแล้ว แล้วก็เริ่มทำ Page Facebook เมื่อปี 2020 ซึ่งยอดคนดูก็ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ทำเรื่อยๆเป็นงานอดิเรกกับอยากเผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองเจอให้กับคนที่ผ่านเข้ามาได้มารู้ด้วย จนวันนึงผมไปเห็นคอร์สสอนเรียนเกี่ยวกับ IT คอร์สนึงซึ่งราคาหลายพันบาท ซึ่งผมรู้สึกว่า “เฮ้ย ความรู้มันขายกันแพงขนาดนี้เลยเหรอวะ” ก็เลยคิดขึ้นได้ว่าตอนเด็กเราก็ไม่มีเงินไปเรียนพิเศษอะไรแบบนี้ แล้วเราก็ชอบเห็นคนบ่นเรื่องปัญหาเหลื่อมล้ำทางการศึกษาแต่ก็ไม่ออกมาทำอะไรเป็นรูปธรรมมากกว่าการบ่น ตัวเราก็พอจะเคยติวเพื่อนมาเหมือนกันก็เลย “เอาวะ ลองทำคอร์สสอนเรียนแบบฟรีๆดูสักคอร์สละกัน” ก็เลยกำเนิดเป็นช่อง Youtube : Normal Programmer ขึ้นมา ซึ่งพอลองทำก็สนุกนะแต่มันก็เหนื่อยมากๆที่ต้องเตรียมเนื้อหา เตรียมตัวอย่าง แล้วพอเราลองไป Search ใน Youtube ก็มีคนทำคล้ายๆเราเหมือนกัน แถมมีคุณภาพดีกว่าเราอีกด้วยก็เลยพับ Project ที่จะทำสอนเรื่องอื่นต่อ ( แต่จริงๆก็มีแผนจะทำสอนเรื่อง Design Database แบบพื้นฐานอยู่เหมือนกัน แต่ต้องเตรียมตัวอย่างกับเนื้อหาก่อน )

ส่วน Podcast เนี่ยมาเริ่มเพราะอยากเล่าประสบการณ์และความรู้ในการเป็น Programmer กับเด็กจบใหม่และคนที่อยากมาเป็น Programmer ว่าวงการนี้เป็นยังไง ต้องเจออะไรบ้าง อีกทั้งเราก็มาคิดว่าตอนเรามาเริ่มเป็น Pgorammer เนี่ยเราไม่รู้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไร การที่เราทำอะไรแบบนี้ก็น่าจะมีประโยชน์กับคนที่มาฟัง

ซึ่งการทำทั้งสองอย่างเนี่ยมีคนมาดูน้อยมาก น้อยแบบคนฟังคนดูประมาณ 1 - 2 คนต่อคลิป เห็นแล้วแบบ เรากำลังทำอะไรอยู่วะ แต่พอมาคิดอีกทีก็นึกได้ว่าเราทำเพราะอยากทำ สิ่งที่เราทำเราคิดว่ามีประโยชน์ดังนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องหยุดทำนี่หว่า

เป้าหมายเมื่อปีที่แล้ว

เป้าหมายปีที่แล้วที่อยากทำมีดังต่อไปนี้

  • เล่นกีต้าร์

สำหรับอันนี้จบลงด้วยไม่ได้หัดเล่นเพิ่มเลยเพราะเอากีต้าร์ไว้ที่ทำงานกะไว้เล่นหลังเลิกงานแต่ดันมาเจอ WFH เลยทำให้ไม่มีโอกาสได้หัดเล่นเลย

  • เขียน Blog ให้ถึง 150 บทความ

อันนี้ก็ล้มเหลวเพราะไม่รู้จะเขียนอะไร ถึงจะพยายามสรุปหนังสือที่ตัวเองอ่านมาลงทุกสัปดาห์แต่สุดท้ายมันก็หมดไฟที่จะเขียน มันเหมือนเราจะเขียนอะไรสักอย่างมันต้องมีไฟ มีความอยาก พอเราทำแบบเยอะๆความอยากมันเลยลดลงจนสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นอยากเขียนเมื่ออยากเขียนเลยทำไม่ได้ตามเป้า

  • แปลนิยายภาษาอังกฤษ

อันนี้กะทำเพื่อพัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษของตัวเอง แต่พอแปลจริงๆมันเหนื่อยมากๆสำหรับคนที่ไม่เป็น แถมเรื่องที่แปลนี่แบบอย่างเก่า สำนวน ศัพท์ นี่โคตรเข้าใจยาก แต่ถามแปลแล้วสนุกไหม ก็คงต้องตอบว่าสนุกเพราะนิยายที่แปลเป็นนิยายระดับตำนาน แปลแล้วเหมือนโดนไม้ฟาดหน้าอยู่ตลอดเวลา เพราะมันมีอะไรที่บอกผ่านตัวหนังสือเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ความเชื่อ การต่อสู้ผ่านหนังสือ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ก็ถ้ามีอารมณ์อยากแปลก็จะแปลต่อให้จบ ก็ถ้าใครรอแปลให้จบนี่บอกเลยว่าไม่ต้องรอแปลนะครับ ไปอ่านตาม Link ที่ผมแปะไว้ในตอนที่แปล หรือไปซื้อแปลไทยมาอ่านเลยน่าจะดีกว่า

  • เขียนเรื่อง Design Database

อันนี้ก็เป็นอีกความตั้งใจที่ทำไม่สำเร็จ เพราะมัวแต่เอาเวลาไปทำอย่างอื่น (เล่นเกมส์ อ่านหนังสือปรัชญา) ก็เลยไม่ได้เขียน Blog สอนการ Design database ก็ถ้าเป็นไปได้ปี 2022 คงจะทำเป็นคลิปสอน Design database กับเขียนเป็นตอนๆลง Blog แบบจริงจัง

ปี 2022 ทำอะไรดีล่ะ

  • ทำ podcast ทุกสัปดาห์

อันนี้เกิดจากความตั้งใจว่าอยากจะแชร์ประสบการณ์การเป็น Programmer เพื่อเป็นข้อมูลให้กับโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ หรือคนที่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ได้มาฟัง

  • อ่านหนังสือทุกวัน

อันนี้คืออยากเพิ่มความรู้เรื่องอื่นในชีวิตที่มากกว่าการเขียนโปรแกรมก็เลยตั้งกฏกับตัวเองว่าให้อ่านหนังสือวันละ 30 นาที ซึ่งลองทำมาได้หลายเดือนก็รู้สึกว่าเออสนุกดี ได้รู้อะไรใหม่ๆเยอะแยะ แถมมีเรื่องมาเขียนใน Blog ด้วยก็เลยเอาวะ ลองตั้งเป้าหมายเล่นๆดู

  • เล่นกีต้าร์

อันนี้ก็เหมือนกับปีที่แล้ว อยากเล่นเป็นจริงๆ อยากมีอารมณ์เป็นศิลปินนั่งเล่นเพลงที่อยากเล่น

  • หาอาชีพเสริมที่ได้เงินแบบจริงๆจังๆ

คือจริงๆผมก็พยายามหาอาชีพเสริมทำอยู่เหมือนกันเพราะอยากจะเอาเงินไปทำอย่างอื่นเพิ่ม และกันตัวเองเผื่อตกงาน ซึ่งจริงๆผมก็ลองเขียนนิยายลง fictionlog บ้างแล้วแต่คนอ่านน้อยแล้วก็ไม่ใช่แนวที่คนเข้าใจง่าย ดังนั้นก็เลยเลิกเขียนไป ตอนนี้ก็เลยไม่รู้จะหารายได้เสริมช่องทางไหน แต่ก็ตั้งเป้าว่าต้องทำให้ได้สักที่

  • ลองเล่น IOT

คือจริงๆอันนี้ก็อยากเล่นหลายปีละ แต่มีปมเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง Hardware ที่แม่งชอบมีบัคที่ไม่เกี่ยวกับ Logic ก็เลยไม่ค่อยอยากทำ แต่ดูเหมือนว่ามันมีอะไรน่าเล่นหลายอย่างก็มากๆในตอนนี้ (จริงๆมันไม่ค่อยบูมเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นองค์ความรู้ต่างๆมีให้อ้างอิงเยอะพอแล้ว) ก็เลยเอาวะลองซื้อมาเล่นดู

สำหรับปี 2021 ก็คงเป็นอีกปีที่ผ่านไป เป็นอดีตที่มีอะไรให้เรียนรู้เยอะ ทั้งเรื่องดีก็ไม่ดี ผมจะไม่บอกว่ามันเป็นปีที่ดีหรือไม่ดีเพราะมันเป็นการมองจากตอนนี้ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจมองมันดีก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่ผมจะยึดถือก็คือ “อยู่กับปัจจุบัน”

เพลงที่ได้ฟังในปีนี้

ฉันไม่เดียงสา
Hello bye
Meltaway
ขอให้เธอเจอคนแบบเธอ
เก่งแต่เรื่องคนอื่น
สองใจไม่ผิด
บ้าบอ
กล่อง
Excellent
My Inspiration
ซ่อนแอบ
จม
สายตาหลอกกันไม่ได้
อีกไม่นาน นานแค่ไหน
ดอกไม้กับแจกัน
Love Lesson 101
Sea shore
ถามคำ
ช่วยไม่ได้
ลงใจ
Leave the Door Open
GUCCI BELT
ขอถามสักหน่อย
โอ๊ย
ขอเวลาตั้งตัว
คนเดิมของฉัน
ความจริงเป็นสิ่งที่ตาย
ดาวกับพระจันทร์