R.U.R. (Rossum’s Universal Robots) - ห.ส.ร. (หุ่นยนต์สากลราวี)

R.U.R. (Rossum’s Universal Robots) - ห.ส.ร. (หุ่นยนต์สากลราวี)

R.U.R. (Rossum’s Universal Robots) - ห.ส.ร. (หุ่นยนต์สากลราวี)

ผมเจอหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญตอนไปหาหนังสือเกี่ยวกับการหลักการเขียนที่ดี ซึ่งมันว่างอยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งพอเห็นปกแล้วมันดูน่าสนใจดี แถมชื่อหนังสือก็แปลกดี หุ่นยนต์สากลราวี คืออะไรวะ ไม่คุ้นคำนี้เลย ก็เลยหยิบลองอ่านดู พออ่านไป 3 - 4 หน้าแล้วโคตรสนุก บทมันหักกันไปกันมาด้วยคำพูด จริงๆจะเรียกว่านิยายก็ไม่ถูกนะ หนังสือเล่มนี้มันคือบทละครเวที

ทำไมเราต้องสงสารหุ่นยนต์ ให้สิทธิ์มันเท่าเทียมกับมนุษย์

เรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันระหว่างตัวละครในเรื่องเป็นหลัก ไม่ได้บรรยายสิ่งรอบตัว ผมเลยค่อนข้างชอบเพราะมันเดินเรื่องได้เร็วและมันทำให้เราจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่อง ไม่ต้องคอยสลับไปมาระหว่างเนื้อเรื่องกับการบรรยายสภาพรอบตัวหรือสถานที่

โดยเรื่องพูดถึงโลกที่เราสามารถสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาได้ โดยหุ่นยนต์ในที่นี้ไม่ใช่หุ่นยนต์แบบเป็นเครื่องจักร แต่เป็นหุ่นยนต์ที่สร้างจากเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งไปเจอ และเอามาทดลองสร้างเป็นอวัยวะ สร้างเป็นชิ้นส่วนต่างๆของร่างกาย และสุดท้ายสามารถประกอบเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆได้รวมถึงมนุษย์ จากนั้นก็การเกิดการสร้างหุ่นยนต์ (จากเซลล์สิ่งมีชีวิต ไม่ใช่ไฟฟ้า เปลี่ยนแบตได้) มนุษย์ขึ้นมาใช้งานเป็นแรงงาน โดยผู้สร้างเนี่ยระบุไว้เลยว่าจะสร้างมันขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแรงงาน ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ความรู้สึกอะไรให้กับหุ่นยนต์เหล่านั้น

ในเรื่องจะมีตัวละครหนึ่งที่ทนไม่ไหวกับการที่เห็นเหล่าหุ่นยนต์เหล่านี้ปฏิบัติแบบหุ่นยนต์ไม่เหมือนไม่มนุษย์ ตัวละครนี้จึงเดินทางมาที่บริษัทที่ผลิตหุ่นยนต์เพื่อปลุกระดมหุ่นยนต์ให้มีสิทธิ์เหมือนมนุษย์ ซึ่งตัวละครนี้ก็ได้มาคุยกับเหล่าผู้สร้างที่สร้างหุ่นยนต์ บทสนทนาตอนหนึ่งซึ่งผมสนใจมากคือ ตัวละครนักสิทธิถามว่าทำไมทำกับหุ่นยนต์แบบนี้ บังคับเขา ทำกับเขาแบบไม่เหมือนมนุษย์ ผู้สร้างก็ให้เหตุผลว่าพวกเขาสร้างขึ้นมาแบบไม่มีความรู้สึก พวกมันไม่มีความรู้สึก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่มีความคิด พวกมันแค่ทำงานตามสั่ง กินก็กินเพื่อให้มีแรงทำงานก็เท่านั้น

พอผมอ่านถึงตรงนี้แล้วก็จริงนะ เหตุใดคุณถึงต้องสงสารมันล่ะ ทำไมต้องให้สิทธิ์มันล่ะ ในเมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำแบบนั้น คุณลองเทียบกับคอมพิวเตอร์สิ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานแบบนั้น คุณไม่เห็นสงสารมันเลย แต่พอมันมีเลือดมีเนื้อ มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ขึ้นมา ก็เลยไปให้ความสงสารมันอย่างนั้นเหรอ พอได้อ่านตรงนี้คำถามมันเกิดขึ้นมามากมาย ทำไมเราต้องสงสาร เพราะอะไร ทำไม ในเมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสิ่งนั้น มันไม่มีทั้งความรู้สึกนึกคิดต่างๆนาๆ แล้วเราจะให้สิทธิ์กับสิ่งใดเป็นตัววัดว่ามันควรมีสิทธิ์ ควรสงสาร ควรเห็นใจ

เป้าหมายของการสร้างหุ่นยนต์

บทสนทนาก็พาเราดำดิ่งไปถูกความคิดของเหล่าผู้สร้างที่ดูเหมือนจะมีเหตุผลในมุมมองของพวกเขา แถมถ้าคุณได้อ่านเนี่ย (ผมแนะนำลองหาอ่าน) คุณจะหาอะไรไปเถียงพวกเขาไม่ได้เลย ตัวอย่างหนึ่งที่จำได้คือ ถ้าพวกเขาใช้หุ่นยนต์ในการผลิตเนี่ย เนื่องจากหุ่นยนต์มันทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทำงานได้ 24 ชั่วโมง แถมหุ่นยนต์ราคาถูกกว่าค่าแรงมนุษย์เสียอีก ซึ่งเหล่าผู้สร้างก็บอกว่าราคาของแป้งสาลีเนี่ยลดลงทุกปีตั้งแต่เริ่มเอาหุ่นยนต์ไปทำงาน ซึ่งถ้ายังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้แบบนี้ แป้งสาลีจะมีราคาถูกจนถึงขนาดฟรี มนุษย์ก็ไม่ต้องขวนขวายทำอะไรให้เหนื่อย พวกเขาจะมีแป้งสาลีกินฟรี และมนุษย์ก็มีชีวิตอยู่เพื่อความบันเทิง ความสุข หาการพ้นทุกข์ และเหล่าผู้สร้างก็ยกคำพูดในคัมภีร์ไบเบิ้ลเกี่ยวกับ ใครสักคนที่จะได้มีขนมปังกินโดยไม่ต้องเสียเหงื่อ ผมอ่านถึงตรงนี้แล้ว เฮ้ยสุดยอด มันเหมือนการตอกหน้าว่า นี่ไงสิ่งที่พระเจ้าอยากให้เราได้ มันไม่ถูกตรงไหน แถมเรายังสามารถทำได้ในโลกใบนี้ไม่ต้องไปเสี่ยงวัดดวงที่โลกหน้าด้วย

อ่านแล้วได้อะไร

สำหรับเรื่องนี้ผมอ่านแล้วได้คำถามมามาย แถมเป็นคำถามที่ตอบยากด้วย เช่น ทำไมเราต้องสงสารหุ่นยนต์ในเมื่อมันไม่มีความรู้สึก ไม่มีความนึกคิด มันก็ดูดีนี่ แต่พอเรามาคิดกลับถ้ามันเป็นสัตว์ล่ะ ถ้าเรามองว่าไม่มีความนึกถึงคิด มันก็เกิดมาเพื่อเป็นอาหาร ทำไมเราจะต้องไปให้สิทธิ์ ไปให้ความสงสารล่ะ แต่ปัญหาคือผมดันรู้สึกนี่สิ ก็เลยไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วผมใช้อะไรในการตัดสิน

ส่วนข้อเสียของเรื่องนี้คงเป็นความน่าหงุดหงิดของตัวละครในเรื่องที่มันแบบ “มึงเอาจริงดิ มึงคิดแบบนี้จริงดิ” มันแบบน่าหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งจริงๆความน่าหงุดหงิดพวกนี้มันเจอได้กับมนุษย์ที่เราเจอเนี่ยแหละ แบบพวกมึงคิดแบบนี้ได้ยังไง สถานการณ์แบบนี้มึงยังจะทำแบบนี้ได้อีกเหรอวะ แต่พอมาคิดดูมนุษย์เราก็สามารถเป็นแบบนั้นจริงๆ

สำหรับเล่มนี้ผมแนะนำให้ไปลองหาอ่านกันดูครับ บทสนทนาระหว่างตัวละครนั้นสนุกมาก มันหักล้างกันด้วยเหตุผลได้อย่างดี และมาดูกันว่าสุดท้าย หุ่นยนต์จะยึดครองโลกได้หรือไม่ เหล่าผู้สร้างจะเป็นอย่างไร และสุดท้ายผมเชื่อว่าคุณจะพบคำถามมากมายจากการอ่านหนังสือเล่มนี้