A Silver Lining - ยามเมื่อลมพัดหวน

A Silver Lining - ยามเมื่อลมพัดหวน

A Silver Lining - ยามเมื่อลมพัดหวน

ในชีวิตของคนทุกคนย่อมเจอปัญหาในชีวิต บางปัญหาก็สามารถแก้ปัญหาแล้วผ่านไปได้ด้วยดี แต่บางปัญหาแม้จะถูกแก้ให้ผ่านพ้นไปแต่ยังทิ้งเรื่องที่ค้างคาใจไว้กับคนคนนั้น ซึ่งเรื่องค้างคาใจนั้นก็อาจจะเป็นบ่อเกิดของปัญหาอื่นๆโดยไม่รู้ตัว

A Silver Lining พูดถึงแทนรักผู้ใหญ่วัยทำงานซึ่งต้องกลับมาที่บ้านของพ่อซึ่งเสียชีวิตไป เพื่อขนของออกจากบ้านก่อนจะขายต่อให้นายหน้า ซึ่งการกลับไปบ้านของพ่อซึ่งหย่ากับแม่ทำให้เขาได้นึกถึงความทรงจำเก่าๆผ่านข้าวของต่างๆในห้องของนอนของเขา และได้พบเรื่องราวประหลาดที่ตัวละครอัศวินในนิทานได้ออกมาในโลกของความเป็นจริง เพื่อให้เขาแต่งนิทานให้จบดังที่อัศวินต้องการ

เนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องเล่าถึงแทนรักที่ต้องมาจัดการขนของออกจากบ้านของพ่อที่เสียชีวิตไป ซึ่งนั่นทำให้เขาเจอกับเหตุการณ์ประหลาดที่ตัวละครอัศวินในนิทานที่เขาแต่งไปประกวดในสมัยเด็กโผล่ออกมาในโลกของความจริง และบังคับให้แทนรักเขียนตอนจบของนิทาน โดยตัวแทนรักก็ต้องยอมร่วมมือกับอัศวินเพราะไม่งั้นเขาจะไม่มีทางที่เขาจะกลับไปที่โลกของความเป็นจริงได้

เรื่องค่อยๆดำเนินผ่านการเขียนนิทานของแทนรัก เพื่อให้ “อัศวิน” ทำภารกิจตามหา “ดอกไม้” ที่ “ปิศาจลม” ขโมยไป ซึ่งแทนรักก็พยายามเขียนตัดจบให้อัศวินได้ดอกไม้อย่างรวดเร็ว แต่อัศวินก็ไม่ยอมเพราะเป้าหมายของเขาคือการได้ “โล่ห์” ที่แสดงความกล้าหาญ และพา “ราชินี” กลับเมือง ซึ่งเมื่อยิ่งเขียนนิทานเพื่อให้ถึงตอนจบเรื่อยๆ แทนรักก็ค่อยๆรำลึกความหลังต่างๆในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่พ่อเลิกกับแม่ ปัญหาที่ตัวเองนั้นรักสวยรักงาม ชอบเล่นตุ๊กตา มีพฤติกรรมไม่เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป จนเมื่อแทนรักเขียนนิทานจบลง เขาก็สามารถจัดการเรื่องที่ติดค้างที่อยู่ในจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ทั้งเรื่องที่เขาคิดว่าตัวเองเป็นปัญหาที่ทำให้พ่อแม่ต้องแยกทางกัน การที่คิดว่าพ่อไม่ได้รักเขา และการยอมรับว่าตัวเองเป็นตัวเอง ไม่ต้องฝืนเป็นแบบที่คนอื่นต้องการ

การเดินเรื่อง

เรื่องนี้มีการเดินเรื่องได้ดีมาก เขาค่อยๆให้ข้อมูลเราทีละเล็กทีน้อยแบบที่ไม่ให้เราเดาทางได้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นการวางปมปัญหาที่แทนรักไม่สนิทกับพ่อ การที่งานโฆษณาสินค้าที่ขายความเป็นชายที่เขาเสนอให้ลูกค้ามีปัญหา ให้เห็นอุปกรณ์แต่งหน้า ตุ๊กตาหมีสุดน่ารักที่ไม่ควรจะเห็นในห้องผู้ชาย ไดอารี่ที่บันทึกเรื่องราวที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน และ สัญลักษณ์ต่างๆในนิทานที่พยายามบอกถึงสิ่งที่แทนรักต้องการ เช่น อัศวินก็คือตัวตนของแทนรัก ปิศาจลมคือปัญหาที่เขาต้องเจอ ดอกไม้คือการพิสูจน์ตัวตนให้พ่อเห็น ราชาคือพ่อ ราชินีคือแม่ ส่วนโล่ห์คือการที่พ่อยอมรับในตัวเขา ซึ่งพอดูถึงตอนจบแล้วเข้าใจทุกอย่างมันทำให้รู้สึกว่าคนเขียนบทเขียนบทได้สุดยอด ทุกอย่างที่ออกมาในเรื่องนั้นสำคัญหมดไม่มีส่วนไหนไม่สำคัญเลย

อีกส่วนที่น่าประทับใจของเรื่องนี้คือเราเดาไม่ได้เลยว่าตัวละครจะทำอะไร คือบางตอนผมคิดว่าโอเคเดี่ยวมันน่าจะจบแบบอัศวินยอมแพ้และหายไปเหลือแต่แทนรักที่เข้าใจเรื่องราวทุกอย่างและปล่อยวาง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น มันไปในทิศทางที่ไม่ง่ายแบบนั้น มันเดินเนื้อเรื่องต่อไปจนจบ อัศวินไม่สมหวัง แต่ไม่สมหวังก็ไม่สมหวังสุดท้ายเขาก็จัดการปิศาจลมได้ พาราชินีกลับเมืองได้ ถึงแม้ราชินีจะไม่อยู่กับพระราชาแล้วก็ตาม มันเป็นอะไรที่แบบ เออเว้ย มันไม่ต้องจบแบบสูตรสำเร็จแล้วจะรู้สึกดี จบแบบเหมือนชีวิตจริงก็รู้สึกดีและอิ่มใจกว่า

การแสดง

นักแสดงในเรื่องมี 3 คนแต่หลักๆจะมีแค่ 2 คนคือตัวแทนรักกับอัศวิน ซึ่งทั้งนักแสดง 2 คนนี่สามารถทำให้ละครเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งดำเนินไปอย่างรวดเร็วแบบลืมเวลา อยากรู้ว่าเรื่องจะไปจบที่ตรงไหน มันจะเป็นแบบที่เราคิดไหมหรือหักไปเลย ซึ่งในความคิดของผมแล้วนักแสดงนี่คือระดับไปแสดงละครหรือหนังใหญ่ๆได้เลย

ดูแล้วได้อะไร

สำหรับผมเรื่องนี้ดูแล้วได้ความสนุกในการติดตามเนื้อเรื่องว่าปมปัญหาทั้งหมดคืออะไรและสุดท้ายแล้วเรื่องจะไปจบที่ไหน ส่วนแง่คิดที่ได้ก็คือการยอมรับความเป็นจริง ไม่โทษตัวเองว่าไม่ดีพอในเรื่องที่เราทำดีที่สุดแล้ว

สำหรับใครสนใจดูละครเวทีดีๆแบบนี้ก็ไปกดติดตาม Page : Drama Arts Chula ไว้เลยครับ เวลาเขามีละครเวทีใหม่ๆมาเขาจะแจ้งผ่านช่องทางนี้ครับ