รอสฮัลด์ - Rosshalde

รอสฮัลด์ - Rosshalde

รอสฮัลด์ - Rosshalde

รอสฮัลด์เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตรกรโยฮันน์ผู้ครอบครองคฤหาสน์นาม “รอสฮัลด์” ที่ใหญ่โต มีทั้งทะเลสาบ สวนดอกไม้ สวนสงุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของโยฮันน์นั้นถ้ามองจากภายนอกนั้นน่าจะเป็นที่อิจฉาของทุกคน แต่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตของโยฮันน์นั้นกำลังทุกข์ทรมานจากปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ต้องบอกเลยว่าตอนอ่านเรื่องนี้ผมไม่ได้คำนำ คำโปรยใดๆเลย อ่านแบบไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร จุดเด่นของเรื่องนี้คือการวางปมในแต่ละตอนให้เราสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับจิตรกรร่ำรวยคนนี้ เมื่อคลายปมเรื่องของต้นเหตุของปัญหาแล้ว ตัวเรื่องจะพาเราไปดูว่าโยฮันน์ตัดสินใจทำอย่างไรเรียกได้ว่าลุ้นกันทุกบทว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมันจะเลวร้ายลงหรือดีขึ้น ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าผมอ่าน “รอสฮัลด์” จบภายใน 2 วันเพราะมันวางไม่ลงจริงๆมันลุ้นยังกะดูหนังสืบสวนสอบสวนที่อยากจะรู้ว่าตอนจบเป็นยังไง

การอยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่อยากอยู่ด้วยกัน

หากคุณเคยได้ยินคำว่าอยู่ด้วยกันเพราะลูกหรือเหตุผลทางสังคมแล้วไม่เห็นภาพ ผมแนะนำให้มาอ่านเรื่องนี้ดูครับ คุณจะได้เห็นการที่ต้องทนอยู่ด้วยกัน ต้องมานั่งปั้นหน้ามารยาทดีใส่กัน ต้องมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกัน ต้องทำหน้าที่สามีภรรยาที่ดีต่อกันทั้งๆที่ในใจนั้นทุกข์ทรมาน อีกทั้งเรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่าคนที่เจอปัญหานี้เขารู้นะว่าปัญหาคืออะไรและจะต้องแก้อย่างไร ซึ่งวิธีแก้ก็คือการหย่าขาดจากกัน จัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน แต่เขาแค่ขาดแรงกระตุ้นหรือการตัดสินใจที่เด็ดขาดเพราะการตัดขาดนั้นอาจนำพามาซึ่งหลายอย่างเช่น ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ ต้องโดนสังคมนินทา ลูกที่อาจจะไม่ได้เจอต่างๆนาๆ หรือถ้าจะพูดโดยรวมก็คือชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปคาดเดาไม่ได้ซึ่งแตกต่างกับการทนทุกข์ทรมานที่เป็นที่อยู่ที่ตัวเขาเองรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร จะต้องนั่งปั้นหน้า จะต้องทนกับการแสดงออกต่างๆ แต่ทั้งหมดมันรู้ไง คาดเดาได้ แต่การเปลี่ยนแปลงมันไม่ใช่ มันอันตราย น่ากลัว

การถ่ายทอดความรู้สึกไปสู่งาน

ในเรื่องสอดแทรกเกี่ยวกับเรื่องที่ศิลปินที่ผลิตผลงานที่น่าประทับใจเนี่ยบางคนมักจะมีปัญหาในชีวิตต่างๆ เช่น ครอบครัวมีปัญหา หย่าร้าง ติดยา หรือมีอาการที่คนจำนวนมากมองว่าเขาไม่เหมือนคนทั่วไป คนพวกนี้มักจะถ่ายทอดงานได้ดีกว่าในเรื่องนี้ให้เหตุผลเรื่องนี้ไว้เพราะว่าตัวพวกเขาประสบกับเรื่องนั้นจริงๆ เช่น โยฮันน์ที่วาดรูปถ่ายทอดอารมณ์เศร้าได้ดีก็เพราะตัวของเขาเศร้าหมอง อารมณ์แห่งความเศร้าหมองมันมีอยู่มากมายมากมายเสียจนเอามาใส่ผลงานได้ หรือจะเป็นเรื่องความหวังเขาก็รู้ว่าความหวังที่เขาหวังมันคืออะไร เขาเห็นภาพมันชัดชัดจนสามารถเอามาบรรยายในภาพได้ ซึ่งจริงๆนั้นรวมถึงตัวของผู้แต่งคุณ Hermann เขาก็มีปัญหาหย่าร้างกับภรรยา ซึ่งผมเข้าใจว่าทุกบรรยากาศในเรื่องที่บรรยายให้เห็นภาพถึงอารมณ์ขนาดนี้ก็เพราะเขามีประสบการณ์จริง เข้าใจว่าตอนนั้นตัวเองรู้สึกยังไง เหตุผลต่างๆนาๆที่ที่ทำให้ตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานในสภาพนั้น

อ่านแล้วได้อะไร

สำหรับเล่มนี้อ่านแล้วได้เห็นความทุกข์ทรมานของชีวิตคู่ที่ต้องทนอยู่ด้วยกัน แต่ก็ทำให้คนนอกอย่างผมเข้าใจว่าทำไมคนเราถึงต้องยอมทนอยู่ตรงนั้น และเช่นกันมันทำให้เราเห็นว่าการทนทุกข์ทรมานนั้นอาจจะดีแต่มันดีสู้การแก้ปัญหาไม่ได้หรอกครับ ในเรื่องเปรียบเทียบเสมือนการเป็นฝี การบ่งเอาหนองออกอาจจะเจ็บหรือทรมานแต่สุดท้ายมันจะหายครับ แล้วก็อีกเรื่องคือการหย่ามันไม่ได้เลวร้าย มันไม่ใช่ทำแล้วโลกจะแตกชีวิตทุกคนจะตาย ความเป็นพ่อเป็นแม่จะสิ้นสุดลงแบบในละคร มันไม่ใช่แบบนั้นครับ มันมีอะไรมากกว่านั้น และอีกอย่างคือการที่เราเป็นคนนอกเราไม่รู้อะไรภายใน เราไม่ควรตัดสินหรือต่อว่าการหย่านั้นเพราะไม่แน่การหย่านั้นคือทางออกเดียวของปัญหานั้นแล้วก็ได้

ที่ผมเล่าไปนั้นไม่ถึงครึ่งของความดีในเรื่อง Rosshalde เลยครับ มีอะไรให้ได้ติดตามในเรื่องไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ทำไมโยฮันน์กับภรรยาถึงมีปัญหากัน อะไรเป็นที่ทำให้โยฮันน์ต้องทุกข์ทรมาน และสุดท้ายเรื่องจะไปจบลงที่ตรงไหน และคุณซึ่งเป็นผู้อ่านเองจะได้อะไรจากการอ่านเรื่องนี้ ผมแนะนำให้ไปลองหามาอ่านดูครับรับรองว่าเป็นนิยายที่คุ้มกับเวลาอ่านเรื่องนึงเลย