ความทรงจำปี 2022

ปี 2022 ที่ผ่านมา

ตอนมาเขียนสรุปปี 2022 เนี่ยยังนึกถึงตอนที่ยังนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลเมื่อปีที่แล้วอยู่เลย ไม่ทันไรก็ได้ก็สิ้นปีแล้วซึ่งมองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าปีนี้นั้นเป็นปีที่ว่างเปล่าเสียเหลือเกิน เหมือนว่าเราไม่ได้โตขึ้นหรือเก่งขึ้นเลย

งาน

ปีนี้เป็นปีที่งานน่าเบื่อมากๆอาจจะเรียกได้ว่าได้ทำงานที่เหี้ยที่สุดที่เคยทำมา ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตจะได้มาทำงานที่เหี้ยได้ขนาดนี้ มันถึงขนาดที่ไม่มีคนให้ Requirement เลยว่าจะให้ทำอะไร เราทำงานแบบเสี่ยงดวงมากๆว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นเขาจะให้ผ่านไหม และที่แย่มากๆคือเราแทบไม่เห็นคุณค่าจากสิ่งที่เราทำเลย Third party ที่ร่วมงานด้วยก็เหี้ยคือเขาไม่ได้มองจุดหมายของการทำงานเลย ทำงานแบบไอเหี้ยจะขึ้น Production สัปดาห์หน้ามึงยังไม่มีเครื่องที่สมบูรณ์พร้อมผ่านการติดตั้งที่เรียบร้อยมาให้เลย แต่ก็โชคดีที่ถึงงานจะเหี้ยแต่ก็มีเพื่อนร่วมงานที่ดีมากๆที่พร้อมจะช่วยกันอยู่ตลอดแม้จะไม่ใช่หน้าที่ของเขา พร้อมจะพาไอ Project เส็งเคร็งนี่ไปให้ถึงจุดหมาย

ในส่วนของเนื้องานปีนี้ได้ทำ Application ที่เป็นระดับที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่ Enterprise มาใช้แล้ว ซึ่งถามว่าภูมิใจไหมก็บอกเลยว่า “ไม่” เพราะมันน่าจะดีได้มากกว่านี้ เร็วได้มากกว่านี้ (ถ้าผมเขียนโปรแกรมได้ดีกว่านี้) ทำเงินได้มากกว่านี้ แต่อย่างว่าแค่แม่งขึ้น Production แล้วขายของได้เงินเกือบ 20 ล้าน โดยที่ไม่เคยมีใครมาให้ Requirement (จริงๆแม่งมาให้ 1 สัปดาห์ก่อนขึ้น Production มึงจะมาทำควยอะไร แถมมาก็ติ ไม่บอกว่าดีคืออะไรด้วย ถ้ากูอยู่วันนั้นแม่งน่าจะโดนกูยัดด้วยคำถามแล้วต้อนแม่งให้จนแบบที่โสคราตีสทำแน่) แม่งก็ปาฏิหารย์ขนาดไหนละ

ในด้านเทคนิคปีนี้ได้ k8s แบบขึ้น Production สักที เรียกว่าเริ่มจาก Beginer ที่เรียนคอร์สแค่คอร์สเดียวแล้วลุยเดี่ยวกับ Vendor ที่แม่งตอบแบบ เฮ้ย เอาจริงดิ มันใช่จริงเหรอวะ กูทำตาม Manual ที่มึงบอกแล้วมันไม่ได้นะ ถึงขนาดที่ต้องไปแกะ template config ของแม่งจนรู้ว่า set ผิดแล้วต้องมา override ทับแม่ง ซึ่งถ้ามองว่าเป็นข้อดีก็ดีแหละจาก k8s ประมาณ 10/100 ตอนนี้น่าจะได้สักประมาณ 40/100 ละ

ส่วนเรื่องทีม ปีนี้มีคนออกเยอะมาก ทีมผมนี่แทบจะออกกันหมดเลย ซึ่งผมก็พอเข้าใจเหตุผลของทุกคนออกไป ถ้าเราเจองานที่ดีกว่าถูกใจกว่าสบายใจที่จะทำกว่ามันก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องเลือกทางนั้น ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องปรับปรุงที่ที่เราอยู่เนี่ยให้มันดีขึ้น น่าอยู่ขึ้น เพื่อที่จะให้คนเก่าที่ยังอยู่นั้นยังคิดว่ามันดีกว่าที่อื่นและรองรับคนใหม่ที่กำลังจะเข้ามาให้เขารู้สึกว่าการมาอยู่ที่นี่นั้นดีและเหมาะกับเขา

ความรัก

สำหรับปีนี้เรื่องความรักก็ยังวนอยู่ที่เดิม ในเรื่องของตัวบุคคลก็คือกลับไปคุยกับคนที่เคยจีบไปเมื่อสองสามปีที่แล้ว ซึ่งต้นเหตุที่กลับไปคุยกันก็เพราะเราดันไปเจอป้ายโฆษณาวงเกาหลี ก็เลยถ่ายส่งไปให้เขาดูว่ามันมีป้ายอย่างใหญ่เลยนะน้องมาถ่ายรึยัง จากเหตุการณ์นั้นก็เลยลองกลับไปคุยกันอีกรอบ ได้ไปดูหนังได้ไปกินข้าวด้วยกัน (แต่เราไม่เคยถ่ายรูปคู่ด้วยกันสักครั้งเลย) แต่ทุกอย่างมันก็จบแบบเดิมคือเหมือนลักษณะการใช้ชีวิตของสองคนไม่เหมือนกัน ชอบคนละอย่าง ใช้ชีวิตคนละแบบ อีกทั้งน้องเขาเองก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าผมด้วย ส่วนตัวผมเองก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามเส้นการตัดสินใจเรื่องความรักได้ ผมไม่สามารถนิยามได้ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกมันคือความรักแบบที่ควรจะมี หรือเป็นแค่ความต้องการทางของร่างกายเฉยๆ ซึ่งด้วยทั้งหมดทั้งมวลมันก็มาจบที่น้องเขาก็เลือกตัวเลือกที่ถูกใจกว่า
ส่วนผมก็ยอมรับการตัดสินใจและอยู่กับคำถามเรื่องความรักของผมต่อไป ส่วนในเรื่องของทัศนคติก็เป็นเหมือนที่ได้อ่านไป ผมยังคงวนเวียนอยู่กับการนิยามคำว่ารัก รักที่ถูกที่ควรมันคืออะไร ซึ่งจริงๆมันอาจจะไม่ยุ่งยากถ้าผมไปให้สุดไม่ต้องสนใจอะไร หาผู้หญิงสักคนคุยด้วยพอถูกคอแล้วก็ขอเป็นแฟนไป ได้ก็ดีถือว่าได้ลอง ไม่ได้ก็ช่างแม่ง แต่ก็เสือกคิดเยอะ คิดว่ามันเหมาะมันควรแล้วเหรอที่จะใช้คำว่ารักโดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือเราบอกว่ารักโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่ารักของเรากับรักของเขาตรงกันไหม แล้วพาทั้งเขาและเราไปเสียเวลาในความรักที่ทั้งคู่เห็นไม่ตรงกัน

ตอนนี้ก็เลยเคว้งคว้างไม่รู้จะเอายังไง ซึ่งจริงๆก็มีคนที่เราชอบอยู่ เป็นน้องที่น่ารัก คุยเก่ง อยากจะลองจีบอยู่เหมือนกัน แต่พอคิดถึงเรื่องที่ต้องเจอแล้วก็ไม่อยากจีบเหมือนกัน และก็เหมือนว่าน้องเขาจะมีคู่หรือคนมาจีบอยู่แล้วก็เลยดูอยู่ห่างๆ แสดงความรักแบบห่างๆ ต่อไปละกัน

อารมณ์

อารมณ์ปีนี้นี่คือเหวี่ยงสุดๆเป็นได้ทั้งคนดีที่สุดสุขมที่สุดไปจนถึงคนที่พร้อมจะบวกเอาให้แหลกเอาให้ยับ ซึ่งดูเหมือนอย่างหลังจะเกิดบ่อยกว่าอย่างแรก ตอนนี้ก็คงได้แค่พยายามลดความเดือดของตัวเองซึ่งก็น่าจะยากคงจะต้องเป็นใช้เหตุผลให้มากขึ้น เพราะผมเชื่อว่าถ้ามีเหตุผลต่อให้มันดุเดือดแค่ไหนมันก็จบได้ถ้าเราใช้เหตุผล

สุขภาพ

ปีนี้เริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มแย่อาจจะเพราะผ่านไปครึ่งชีวิตละ ไม่ว่าจะปวดหัวเข่า เหนื่อยง่าย คิดช้า ตอบสนองได้ไม่ไวเหมือนแต่ก่อน ก็เลยคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้น่าจะตายไว (คุณอาจจะไม่รู้ แต่ผมอยากเป็นอมตะไม่ตาย) ดังนั้นก็เลยหันมาเริ่มออกกำลังกายแบบง่ายๆจำพวกยกดัมเบล วิดพื้น เดินแกว่งแขน โยคะง่ายๆ เพื่อให้ร่างกายได้ทำงาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำให้ผมมีชีวิตรอดไปจนถึงวันที่มีเทคโนโลยีอมตะไหม

ตามศิลปิน

ปีนี้ก็ยังตามศิลปินอยู่เหมือนเดิม ตอนแรกว่าจะน้อยลงแต่ดันไปเจอศิลปินที่ชอบคนใหม่ๆขึ้นมาอีก แต่ก็มีหลายคนที่เลิกเป็นศิลปินไป บางคนเลิกแล้วก็หายไปเลย (ซึ่งก็หาเจอแต่เห็นแล้วรู้ว่าเขาต้องการความส่วนตัวมากๆ) บางคนก็ย้ายไปทำอย่างอื่น ปีนี้ก็น่าจะยังตามอยู่แต่คิดว่าไม่น่าจะหาเพิ่มละคงเป็นศิลปินคนเก่าๆที่ได้ตาม

อ่านหนังสือ

หลังจากเริ่มอ่านหนังสือพวกปรัชญา นิยาย มาได้หลายปีก็ได้เจอปัญหาหนังสือล้นบ้าน แม่เริ่มบ่นว่าห้องรกไม่มีที่จะวางของ ซึ่งทำให้ต้องหาวิธีหาหนังสือมาอ่านแทนการซื้อ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือการไปสมัครสมาชิกห้องสมุดนั่นเอง ซึ่งผมไปสมัครเป็นสมาชิกรายปีกับห้องสมุด TK Park ซึ่งถือว่าเป็นการตอบโจทย์ดีเกินคาด เพราะผมได้อ่านหนังสือเยอะขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อหนังสือ แถมยังสามารถอ่านหนังสือบางเล่มที่ไม่ได้ตีพิมพ์อีกแล้ว ซึ่งผมสามารถยืมหนังสือได้หลากหลายประเภทมากๆไม่ว่าจะเป็นปรัชญา วรรณกรรมคลาสิคของประเทศต่างๆ ซึ่งพอได้อ่านแล้วรู้สึกได้เห็นโลกในมุมมองใหม่ๆ ได้เห็นเทคนิคการเขียน การเล่าเรื่อง ความรู้ในศาสตร์ต่างๆที่แตกต่างออกไป สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือและอยู่ในกรุงเทพ ผมแนะนำให้ลองสมัครสมาชิก TK Park ดูครับรับรองว่าคุ้มแน่นอน

งานอดิเรก

ปีนี้ยังคงทำช่อง Youtube กับ Blog เหมือนเดิม โดยช่องจะเพิ่มเนื้อหาสอนทำโจทย์จากเว็บ programming.in.th ส่วน podcast ที่ว่าจะทำสัปดาห์ละตอน แต่พอทำไปเรื่อยๆเหมือนจะหมดเรื่องพูดเลยหยุดทำไปนานพอสมควร ก็เลยเปลี่ยนเป็นอยากพูดเมื่อไหร่ค่อยทำ ส่วน Blog ก็ลงเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมบ้าง แต่ปีนี้จะลงเกี่ยวกับหนังสือซะส่วนใหญ่เพราะอยาก Review หนังสือที่คิดว่าดีให้คนอื่นไปลองอ่านบ้างบวกกับอยากทำเป็น Gallery บันทึกว่าตัวเองเคยอ่านอะไรไปบ้าง

ปีนี้มีกลับไปเขียนนิยายที่เคยเขียนไว้แต่เขียนไม่จบต่อ แต่เขียนไปแล้วรู้สึกว่าจะห่างไปนานน่าจะเขียนไม่จบแน่ๆเลยปล่อยมันไว้ก่อน ตอนนี้เลยเปลี่ยนไปเขียนเรื่องสั้นเป็นตอนแทนๆโดยตอนนี้ลงไป 2 ที่ยอดคนอ่านเป็น 0 เลย ซึ่งก็พอเข้าใจเพราะเรื่องสั้นที่เขียนเนี่ยเป็นเรื่องที่อ่านแล้วชวนหงุดหงิด อ่านแล้วอยากจะต่อยคนที่เขียน แถมไม่ใช่แนวที่เป็นที่นิยมด้วย ตอนแรกว่าจะเป็นงานอดิเรกที่สร้างรายได้ แต่ไปๆมาๆก็กลับมาอยู่ในหมวดงานอดิเรกไม่สร้างรายได้ซะแล้ว

เป้าหมายเมื่อปีที่แล้ว

  • ทำ podcast ทุกสัปดาห์

    อันนี้คือไม่ได้ทำเพราะหมดเรื่องพูด ตอนนี้เป็นทำเมื่ออยากทำแทนละ

  • อ่านหนังสือทุกวัน

    อันนี้ทำได้และเหมือนจะกลายเป็นนิสัยไปละคือถ้าไม่ได้อ่านจะเหมือนชีวิตขาดอะไรไป

  • เล่นกีต้าร์

    อันนี้เหมือนเดิมเลยคือเอากีต้าร์ไว้บริษัท พอ Work From Home ก็เลยไม่ได้จับเลย

  • หาอาชีพเสริมที่ได้เงินแบบจริงๆจังๆ

    อันนี้กลับไปเขียนนิยายแล้วก็เขียนเรื่องสั้นละ แต่ดูเหมือนจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ อาจจะต้องไปหัดเขียนนิยายแบบที่คนปกติเขาชอบกันบ้าง

  • ลองเล่น IOT

    อันนี้ไม่ได้เล่นเลยเพราะไม่ใส่ใจเองแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปประยุกต์กับอะไรด้วย คงจะต้องอยากลองทำอะไรที่เป็น Hareware จริงๆดูถึงจะได้ลองทำ

ปี 2023 ทำอะไรดีล่ะ

  • หาอาชีพเสริม

    เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องหลักที่อยากทำ อย่างแรกคงจะลองเขียนเรื่องสั้นต่อไปสัก 10 - 20 ตอน แล้วเปลี่ยนไปเขียนนิยายดูสักเรื่องสัก 10 - 20 ตอน หรือไม่ก็อาจจะลองเป็นติวเตอร์สอนเขียนโปรแกรมดูสักครั้ง

  • ทำช่อง Youtube เป็นช่องสอนเขียน Code

    จริงๆเริ่มทำแล้วแต่ขาดความต่อเนื่องและความจริงจังในการทำ ปีหน้าก็เลยกะทำแบบจริงจังละ เผื่อว่าถ้าทำได้ดีจะได้เป็นช่องให้ความรู้กับคนอยากเขียนโปรแกรมกับเป็นผลงานที่ใช้บอกความสามารถของตัวเอง

  • ออกกำลังกาย

    ปีหน้าจะออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อาจจะเป็นการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆแบบ วิดพื้น ซิตอัพ เล่นดัมเบล เล่นโยคะแบบง่ายๆเพื่อบิดตัว ยืดร่างกาย โดยหวังว่าน่าจะทำให้ร่างกายยังแข็งแรงเหมือนเดิม

ถึงปีนี้จะเป็นปีที่ว่างเปล่าแต่มันก็เป็นปีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเรื่องดี เรื่องร้าย ซึ่งทุกอย่างมันผ่านไปแล้วไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ แต่มันจะเป็นความทรงจำบทเรียนที่จะอยู่กับผมไปตลอดไป และสุดท้ายหวังว่า “เราคงจะได้พบกันอีก”

เพลงที่ได้ฟังในปีนี้

Nobody knows
ถ้าเธอ
Not Ready to Lose You
สมมติว่าเรา
คืนวันศุกร์
ชอบอยู่คนเดียว
705
Call Center
เหตุผลง่ายๆ
เฮอร์ไมโอน้อง ในจักรวาลอนิเมะ
 I Ain’t Worried
Top Gun Anthem
24/7 You
แก้ตัว
ไปต่อไม่ไหว
SIGH
Soudane
ファンサ(Fansa) cover by Baifern
BFF
คนหรือไมโครเวฟ (Microwave)