ผัวเดียวเมียเดียว - อาณานิคมครอบครัวในสยาม

ผัวเดียวเมียเดียว - อาณานิคมครอบครัวในสยาม

ผัวเดียวเมียเดียว - อาณานิคมครอบครัวในสยาม

ตอนเด็กผมมักนั่งดูละครกับที่บ้าน ละครหลายๆเรื่องที่ผมดูมักจะพูดถึงความรักของตัวพระเอกนางเอกที่รักกันไม่เปลี่ยนใจจากกันแต่ที่สำคัญที่สุดของทุกเรื่องคือทั้งสองฝ่ายจะต้องรักเดียวใจเดียว ในบางเรื่องจะมีตัวละครที่จะเป็นคนที่ไม่ได้รักเดียวใจเดียวและพยายามมีแฟนหลายคนหรือมีภรรยาหลายคน ซึ่งตัวละครเหล่านี้นั้นมีจุดจบไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่บางทีก็ตายไม่ก็หมดตัวไม่เหลืออะไร

ตอนเด็กผมก็ไม่คิดอะไรผมก็จดจำเหมือนโดนสอนว่าถ้าอยากมีชีวิตดีๆจะต้องเป็นคนรักเดียวใจเดียวอย่าคิดจะมีมากกว่า 1 ทันที แต่เมื่อโตขึ้นผมก็เริ่มเกิดคำถามว่า “ทำไมคนที่เขามีภรรยาหลายคนนี่มันเป็นคนเลว คนชั่ว เพียงเพราะมีภรรยาหลายคนจริงเหรอ” เมื่อมีคำถามผมก็เริ่มหาว่ามันมีใครที่มีภรรยาหลายคนบ้างไหม ซึ่งผมก็เห็นว่าบนโลกนี้มันมีคนที่มีภรรยาหลายคนครับ และคนที่มีภรรยาหลายคนเขาก็ไม่ได้เป็นอาชญากร ไม่ได้จับภรรยามาทรมาน ข่มขืน ถ้าคุณหาไม่เจอคุณลองศึกษาศาสนาอิสลามก็ได้ครับ ศาสนานี้อนุญาตให้มีภรรยาได้ 4 คน แต่การจะมีได้นั้นผู้ชายจะต้องเลี้ยงดูภรรยาทุกคนให้เท่าเทียมกัน อีกทั้งการจะมีคนที่ 2 ได้นั้น ภรรยาคนแรกต้องยินยอม ถ้าคุณอ่านถึงตรงนี้คุณเริ่มเห็นอะไรไหมครับ การมีภรรยาหลายคนไม่ได้ตัวบ่งชี้ว่าคนคนนั้นเป็นคนไม่ดี และ การที่จะมีภรรยาหลายคนสามารถมีได้ถ้าทั้งหมดตกลงกันได้ (คุณจะเห็นได้ว่าศาสนาอิสลามบังคับว่าต้องเลี้ยงดูให้เท่าเทียม และ ภรรยาที่มีอยู่ก่อนต้องอนุญาต)

อีกคำถามที่น่าสนใจคือ ศีลธรรม(ค่านิยม) ที่ให้การมีภรรยานั้นถูกต้องมาตั้งแต่แรกหรือมันพึ่งเกิดขึ้นขึ้นมา ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่มีมาแต่แรก มันเริ่มตอนไหนและทำไมคนส่วนใหญ่ในสังคมถึงนำมันมาใช้แทนค่านิยมเก่า

ทั้งหมดเป็นคำถามที่ผมสงสัยและผมมักจะพยายามถามคนที่รู้จักว่าเคยสงสัยอะไรประมาณนี้ไหม รู้ไหมครับสิ่งที่ผมได้จากการตั้งคำถามคือ “โห ถามแบบนี้อยากเป็นคนมักมาก” “ไอคนเลว ทำร้ายจิตใจผู้หญิง” “โหถามแบบนี้โคตรเห็นแก่ตัว” ผมนี่แบบอะไรวะเนี่ยกูผิดอะไร

ผมเก็บความสงสัยนี้มาเรื่อยๆจนวันหนึ่งตอนไปเดินห้องสมุด TK park ผมเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มนี้เข้า เฮ้ยหนังสืออะไรวะชื่อ “ผัวเดียวเมียเดียว” ด้วยความสงสัยผมจึงหยิบมาอ่านซึ่งขอบอกเลยว่าผมได้เจอคำตอบของคำถามที่ผมสงสัยมาหลายปีในหนังสือเล่มนี้

หนังสือเล่มถูกแก้ไขจากวิทยานิพนธ์

ผู้เขียนบอกว่าหนังสือเล่มนี้นั้นถูกแก้ไขจากวิทยานิพนธ์ของเขาซึ่งได้รวบรวมข้อมูลเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือต่างๆมาสรุป ซึ่งเมื่อมันเป็นงานวิทยานิพนธ์มันจึงเป็นงานเขียนที่เป็นกลางไม่เอาอารมณ์ผู้แต่งมาเป็นตัวตัดสิน ซึ่งหาได้ยากมากในการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์หรือเล่าเรื่อง เพราะส่วนใหญ่ผู้เขียนจะชอบเอาตัวเองมาตัดสินว่ามันถูกมันผิด หลักฐานจะเอนเอียงจะเข้าข้างสิ่งที่ตัวเองเชื่อ แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่อย่างนั้นครับ หนังสือเล่มนี้เขียนเป็นกลางเอามากๆ ไม่ได้บอกว่า “ผัวเดียวหลายเมีย” เป็นเรื่องแย่ หรือ “ผัวเดียวเมียเดียว” เป็นเรื่องดี หนังสือเล่มนี้หาหลักฐานที่มาของการเปลี่ยนแปลงว่าทำไม เหตุใด อะไรเป็นตัวสนับสนุน ด้วยวิธีการใดและมีการตอบโต้ระหว่างสองฝั่งอย่างไร ซึ่งผมรู้สึกชอบมากเพราะมันปล่อยให้คุณได้ทำความเข้าใจ ไม่มีการเอาสีขาวสีดำมาป้ายว่ามันถูกหรือผิด (แล้วพอเป็นวิทยานิพนธ์มันต้องมีหลักฐานอ้างอิงซึ่งเขามีหลักฐานอ้างอิงให้คุณไปหาอ่านต่อได้ ไม่ได้มาลอยๆแบบหนังสือบางเล่ม)

ประเทศเราในอดีตไม่ได้มีค่านิยมผัวเดียวเมียเดียว

คุณอ่านไม่ผิดครับ (ไม่ต้องทำท่าขยะแขยงครับ หลายๆประเทศที่เจริญแล้วก็เป็น “ญี่ปุ่น” เป็นต้น ) ประเทศไทยของเราไม่ได้มีค่านิยมที่ผู้ชายจะต้องมีผัวเดียวเมียเดียว ในอดีตประเทศเราอนุญาตให้ฝ่ายชายมีเมียกี่คนก็ได้ครับ ในหนังสือเล่าถึงหลักฐานมากมายที่บอกว่า ผู้ดีมีเงินมีอันจะกินนั้นจะมีเมียมากกว่า 1 คน ซึ่งเหตุผลที่มีนั้นไม่ได้มาจากความมักมากในกามอารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่มาจากการแสดงความมีหน้ามีตาในสังคม อีกทั้งการได้ผู้หญิงมาเป็นเมียนั้นก็ไม่ได้มาจากการปล้นฆ่าแย่งมา บางส่วนสมัครใจมาเป็นเมียเอง (คุณอ่านไม่ผิดครับ เขายินยอมมาเป็นภรรยาที่ 2 3 4 5 เอง) แต่ในทางที่เลวร้ายหน่อยคือพ่อแม่ขายลูกสาวเพื่อแลกเงิน อันนี้คือเรื่องผัวเมียในประชาชนคนธรรมดา

ส่วนในระดับผู้ปกครองประเทศนั้นการมีภรรยาหลายคนนั้นมาจากการที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองของคนในชนชั้นผู้ปกครอง มองง่ายๆ ถ้าคุณเป็นญาติทางฝ่ายภรรยาผม ผมจะกล้าทำอะไรที่ไม่ดีไหม เช่นกัน ถ้าผมเป็นสามีพี่สาวคุณ คุณจะกล้าทำเรื่องไม่ดีกับผมเหรอมันก็จะออกมาประมาณนี้ครับ

อีกเรื่องที่คุณควรรู้นะครับ ถ้าใครบอกว่าศาสาพุทธมีภรรยาได้คนเดียวขอบอกเลยว่า “ผิด” นะครับ และคนนั้นควรโดนด่าด้วยว่าโคตรมั่ว ในหนังสือมีหลักฐานว่า ศาสนา “พุทธ” ไม่เคยห้ามให้มี ผัวเดียวเมียเดียว คุณจะมีหลายเมียก็ได้ไม่ผิด (คุณไม่เชื่อไปหามาอ่านได้เลยครับ)

การเปลี่ยนแปลงเป็นค่านิยมผัวเดียวเมียเดียว

หนังสืออธิบายว่าการเปลี่ยนค่านิยมเป็นผัวเดียวเมียเดียวนั้นไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว แต่มันเกิดจากหลายๆปัจจัยร่วมกันซึ่งมีหลายอย่างแต่ตรงนี้ผมจะอธิบายแค่ไม่กี่ปัจจัยเพื่อให้คุณไปหาอ่านเอาเองว่ามีอะไรบ้าง

การเข้ามาของมหาอำนาจตะวันตก

เมื่อประเทศมหาอำนาจตะวันตกไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส ได้เข้ามาที่ไทย ซึ่งก็แน่นอนประเทศเหล่านี้ย่อมพาวัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยมมาเผยแพร่ในประเทศไทยด้วย ซึ่งค่านิยมของประเทศเหล่านี้คือ “ผัวเดียวเมียเดียว” ซึ่งเมื่อค่านิยมไม่เหมือนกัน ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ก็ย่อมจะต้องชี้ให้เห็นว่าทำไมค่านิยม “ผัวเดียวเมียเดียว” ของเขาดีกว่าอย่างไร พร้อมกับชี้ให้เห็นโทษหรือเรื่องไม่ดีของ “ผัวเดียวหลายเมีย” ในมุมมองของเขา อีกทั้งด้วยความที่เขามีวิทยาการด้านทางทหารสูงกว่าเขาจึงใช้อำนาจนั้นทำให้ประเทศไทยต้องทำสนธิสัญญาที่ไทยเสียเปรียบ และจะยอมยกเลิกสนธิสัญญาก็ต่อเมื่อทำตามเงื่อนไขบางอย่างตามที่ประเทศเหล่านั้นกำหนด ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขนั้นคือต้องเขียนกฎหมายว่าด้วยเรื่องครอบครัวให้เสร็จ ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งที่ทำให้ไทยต้องเขียนกฎหมายครอบครัวซึ่งนั่นเป็นการรีบให้ประเทศเราต้องตัดสินใจว่าจะเลือก “ผัวเดียวเมียเดียว” หรือ “ผัวเดียวหลายเมีย”

สื่อสิ่งพิมพ์

ในยุคนั้นเทคโนโลยีการพิมพ์เริ่มเป็นที่แพร่หลายและมันก็กลายเป็นสื่อในการเผยแพร่ความรู้ แนวคิด ความเชื่อต่างๆให้กับผู้อ่าน ซึ่งไม่นานมันก็ถูกใช้เป็นตัวปลูกฝังค่านิยม ซึ่งดูได้จากนิยายที่มีในสมัยนั้น เริ่มแต่งให้คนที่มีคนจำพวก “ผัวเดียวหลายเมีย” มีการใช้ชีวิตหรือจุดจบในนิยายเป็นไปในด้านไม่ดี และแต่งให้คนที่มีค่านิยมแบบผัวเดียวมีเดียวมีชีวิตที่สุข (คุณเห็นความคล้ายอะไรไหมครับและคุณเริ่มเข้าใจรึยังว่าทำไมถึงมีการแบนสิ่งพิมพ์ ทำ List หนังสือต้องห้าม)

อ่านแล้วได้อะไร

สำหรับผมหนังสือเล่มนี้ช่วยทำให้ผมเข้าใจว่าค่านิยมผัวเดียวเมียเดียวเนี่ยมันมาจากไหนแล้วด้วยปัจจัยอะไรเหตุผลอะไรทำให้ประเทศไทยของเราถึงเปลี่ยนจากค่านิยมผัวเดียวหลายเมียมาเป็นผัวเดียวเมียเดียว (มันไม่ใช่เพราะค่านิยมแบบนี้มันบริสุทธิ์ โรแมนติก ใสสะอาดนะครับ ) อีกทั้งมันทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงไปตีตราคนที่มีหลายเมียว่าเป็นคนไม่ดี คนเลว และสุดท้ายหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ผมได้คำตอบของคำถามที่ว่า “คนมีเมียหลายคนเป็นคนเลวจริงๆเหรอ” ส่วนคุณจะได้คำตอบอย่างไรใช่หรือไม่ใช่ผมแนะนำให้ลองไปอ่านดูครับรับรองว่าได้ความรู้แน่นอน (แถมอ่านสนุกมากๆ)