ความทรงจำปี 2023

ปี 2023 ที่ผ่านมา

เผลอแป๊ปเดียวก็ได้มาเขียนบันทึกความทรงจำปี 2023 แล้ว ตอนแรกว่าจะไม่เขียนละ แต่เดี๋ยวถ้าไม่เขียนจะลืมเรื่องราวต่างๆในปี 2023 ไป ซึ่งจริงๆตอนนี้ก็ลืมไปหลายเรื่องละ แล้วที่บอกว่าเวลามันเร็วจริงๆแล้วไม่เร็วหรอกครับเราแค่รู้สึกไปเอง

งาน

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ว่างเปล่าสำหรับการทำงานอีกปี แถมจะว่างเปล่ากว่าปีที่แล้วด้วยเพราะปีนี้ไม่ได้ทำผลงานอะไรให้กับที่ทำงานเลย ไม่มีงานที่มาจากมือเราที่เอาขึ้น Production เลย งานที่ไปทำการ POC ก็ล้มเหลวเกือบทุกอัน เพราะทำแล้วไม่ได้ใช้บ้าง ทำแล้วมันไม่เหมาะกับเอาขึ้น Production บ้าง บางอันเราก็ไม่เก่งพอที่จะทำความเข้าใจมันได้แบบจริงๆจังๆ ซึ่งก็เหมือนเสียเวลางานไปเปล่าๆ

ตำแหน่งงานก็มีปรับเปลี่ยนไปอยู่ทีมใหม่ แถมไปๆมาๆปี 2024 จะต้องมาดูแลคนอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากทำเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ไม่เหลือคนที่จะช่วยงานนี้แล้วก็เลยลองช่วยดู ถ้ามันดีจนเขาหาคนมาแทนได้ก็กลับไปทำตำแหน่งเดิม แต่ถ้าไม่ดีก็แค่หยุดแล้วกลับไปทำตำแหน่งเดิมก็เท่านั้น

ส่วนปีนี้ที่แปลกหน่อยก็ได้ดูแลเด็กฝึกงาน ซึ่งพอได้ดูแลน้องๆแล้วก็รู้สึกว่าเราแก่เอาเสียมากๆแบบตามไม่ทัน Trend ที่น้องๆคุยกัน แถมเรื่องความรู้นี่เหมือนน้องๆรู้เยอะกว่าเราตอนเรียนอีก แบบถ้าเอามาฝึกอีกนิดนี่น่าจะกลายเป็น Programmer เทพๆได้แน่นอน

ความรัก

ปีนี้ตัดสินใจลองจีบคนใหม่ แต่พอจีบไปได้สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าเราเข้าไม่ถึงเขาเลย แถมพอเริ่มๆจีบไปรู้สึกเหมือนถ้าพยายามไปต่อก็คงไม่ดีต่อตัวเองกับคนที่จีบด้วยเดี๋ยวเข้าหน้ากันไม่ติดก็เลยหยุดไป จริงๆก็ยังมีเรื่องที่อยากทำอยู่แต่ว่ารอถึงวันที่มีโอกาสและเหมาะสมกว่านี้ก่อนดีกว่า

จริงๆว่าจะหยุดเรื่องนี้ไว้แล้วแต่ดันมีโอกาสได้คุยกับผู้หญิงที่เคยจีบซึ่งรอบนี้เหมือนเขาจะยอมเปิดใจคุยกับเรามากขึ้น แต่ก็เหมือนจะผิดที่ผมเองที่ไม่รู้ความพอเหมาะพอควรกับการรักษาความสัมพันธ์ อยากจะคุยกับเขา อยากจะมีเวลาอยู่กับเขามากเกินไปจนทำให้เขาอึดอัด ยิ่งเขาเป็นคนที่อึดอัดแล้วไม่พูดตรงๆก็ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจ ซึ่งพอคิดๆดูแล้วถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงทำให้เขาลำบากใจก็เลยหยุดมันไว้ตรงนั้นดีกว่า เก็บความทรงจำดีๆที่มีน้อยนิดนั้นไว้ดีกว่า

แต่ปีนี้ก็มีเรื่องที่ไม่รู้ดีไหมคือปีนี้ขอ IG สาวที่ชอบสำเร็จแล้ว ตอนนั้นจำได้ว่ากว่าจะพูดออกไปได้นี่ยากเหลือเกิน ในหัวมีแต่เขาจะว่าเราไหมนะ จากนี้จะมองหน้ากันได้เหรอ เขาจะมองเรายังไง แต่สุดท้ายเรื่องที่เราอ่านก็ย้อนเข้ามาในหัวว่า “มันมีเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ หน้าที่ของเราคือทำเรื่องที่เราควบคุมได้” ซึ่งเรื่องที่เราควบคุมได้คือ การเอ่ยปากขอ ส่วนเขาจะให้ไม่ให้ไม่ใช่เรื่องที่เราควบคุม ผลจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยมันไป แค่เราทำสิ่งที่เราทำได้เต็มที่ก็พอ ซึ่งพอทำไปแล้วก็สบายใจเพราะเหมือนได้เข้าใกล้คนที่ตัวเองอยากเป็นไปอีกขั้น แถมได้ IG ของคนที่ชอบมาด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ

ความตาย

ปีนี้ได้ใกล้ชิดกับความตายมากขึ้นอะไรหลายๆอย่างที่คุ้นเคยเห็นกันมานานเป็น 10 - 20 ปีอยู่ดีๆก็หายไป คนที่รักก็เจ็บป่วยจนเกือบจะจากกันแบบไม่ได้จากลา ไม่ได้เตรียมตัว ตอนนั้นนี่แบบนี่มันอะไรวะ เกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะต้องทำยังไง ซึ่งจริงๆมันเป็นเรื่องที่เรากลัวที่สุดเพราะเรารู้ดีว่าเราไม่ใช่ผู้ใหญ่ เราเป็นแค่เด็กอายุ 12 ที่อยู่ในร่างคนอายุ 30 เราไม่เคยรับผิดชอบอะไรจริงๆจังๆ ไม่เคยตัดสินใจอะไรใหญ่ๆ สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไป ได้บทเรียนหลายๆอย่างจากเรื่องนี้ไม่ว่าจะเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที อะไรที่ยังขาด ได้รู้จักความกลัวของตัวเองไปอีกขั้น ซึ่งก็ยังไม่รู้วิธีจัดการ แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเรากลัวอะไรล่ะนะ

อ่านหนังสือ

ปีนี้ยังอ่านหนังสืออยู่ถึงไม่เยอะเท่าเดิมแต่ทุกครั้งที่อ่านรู้สึกว่าสนุกและรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนเราได้ไปท่องเที่ยวในโลกกว้างโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับใคร เราได้อยู่กับตัวอักษรได้ทำความเข้าใจข้อความมากมายที่อยู่ในนั้น ทำให้เราตัดขาดจากโลกอันแสนวุ่นวายที่เราพยายามเอาตัวเข้าไปเกี่ยว ทั้งๆที่เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง แล้วพอไปยุ่งก็มีแต่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจต้องไปทุกข์กับเรื่องของคนอื่น

ปรัชญา

ปีนี้ได้เข้าใจปรัชญามากขึ้นได้เข้าใจจุดประสงค์ของมันหลังจากหลงทางไขว่คว้าหาความรู้จนลืมเป้าหมายของมัน ตอนนี้พอเข้าใจเป้าหมายของมันแล้วเวลาอ่านปรัชญาแล้วรู้สึกสนุกขึ้น ได้คิดตาม ได้พยายามเข้าถึงเป้าหมายก็เป็นอะไรที่สนุกดี ถึงบางทีจะยากแต่ก็สนุกที่จะลองทำ

ละครเวที

ปีนี้ไปดูละครเวทีบ่อยขึ้น บ่อยแบบลางานไปดูเลยก็มี จะว่าไปก็เริ่มชอบการดูละครเวทีนะ การได้ดูอะไรที่ย้อนไม่ได้ ต้องตั้งใจ จดจ่อ คิดไปด้วยลุ้นไปด้วย เป็นอะไรที่สนุกดี แถมละครเวทีหลายๆเรื่องที่ไปดูก็มีแง่คิด มุมมอง มีอะไรที่น่าสนใจกว่าหนังหรือละครกระแสหลักที่คนชอบกัน ทำให้ยิ่งดูยิ่งสนุกจนถึงขนาดยอมเดินทางไปที่ที่ไม่เคยไปเลย

งานเขียน

ปีนี้ได้ลองเขียนงานลง web ดู เป็นเรื่องสั้นที่ดูขัดแย้งกับกระแสหลัก แถมดูจะขัดกับความชอบของคนส่วนใหญ่ด้วย ซึ่งผลออกมาก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ได้เขียนได้ระบายความคิดของตัวเองให้คนอื่นอ่าน อย่างน้อยเราก็มีงานประมาณ 100 หน้า (เป็นหนังสือเล่มเล็กๆได้เลยนะเนี่ย) ของตัวเองแล้ว

ใครสนใจไปอ่านได้ที่ : https://www.readawrite.com/a/999058dbffdbc084ac18e535e303ce52

ดูหนัง

เนื่องจากเฮิร์ทเพราะจีบสาวไม่ติด 2 รอบติดต่อกัน จนมาถึงจุดที่ว่าต้องหาอะไรทำเพื่อพาตัวเองออกจากวังวนที่คิดเรื่องนั้นซ้ำไปซ้ำมา จนสุดท้ายมาเห็นว่า Major มีสมาชิกรายเดือน และตอนนั้นมีหนังที่อยากดูหลายเรื่องก็เลยสมัครแล้วไปดูหนัง 4 เรื่องติดต่อกัน ซึ่งพอได้ดูหนังแล้วก็สนุกดี เหมือนตัวเองหลุดไปจากโลกที่กำลังอยู่ ได้ไปทำความเข้าใจหนัง พยายามค้นหาว่าหนังบอกอะไร ได้ดูทั้งหนังดี หนังไม่ดี ได้เห็นลูกเล่นการเล่าเรื่อง การสร้างตัวละคร ได้หงุดหงิดกับความอะไรวะของบท พอดูบ่อยก็ติดเป็นนิสัยจนตอนนี้กลายเป็นว่าปีนี้ทั้งปีดูหนังเกือบจะเยอะกว่าทั้งชีวิตอีก

ช่อง Youtube

ปีนี้ได้ทำช่อง Youtube เยอะขึ้น จากตอนแรกว่าจะลงเกี่ยวกับการเขียน Code อย่างเดียว แต่คิดไปคิดมาไหนๆเราก็มีอะไรอยากเล่า อยากพูดมากกว่าเรื่อง code แถมเรื่อง code ก็พูดไปเกือบหมดแล้ว ก็เลยเอาวะทำ podcast พูดเรื่องหนังกับละครเวทีที่ดู หนังสือที่อ่าน แล้วก็มีทำคลิปสอนเรื่องเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ซึ่งทำไปก็สนุกดีนะ แบบมันมีอะไรให้เราทำอยู่ตลอด

ใครสนใจอยากฟังเกี่ยวกับหนัง หนังสือ หรือ เรื่องเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมไปกดติดตามได้ที่ : https://www.youtube.com/channel/UCd1p76uP-ufG8UEWuuTWzUg

จัดฟัน

จริงๆเลิกคิดจะจัดฟันไปนานแล้วเนื่องจากคิดว่าฟันก็ปกติดีไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็อยู่ได้มาตั้ง 30 ปี ก็ไม่น่าจะต้องปรับแต่งอะไร แต่อยู่ดีๆก็เริ่มเจ็บฟันคุดขึ้นมาก็เลยคิดว่าเออไปถอนฟันคุดทิ้งดีไหม พอดีกับคนที่ทำงานชวนไปลองดูว่าถ้าจัดฟันต้องทำอะไรบ้าง ตอนแรกก็กะจะไม่ทำอยู่ดี จนผู้หญิงที่ผมชอบ (แต่เขาแต่งงานไปแล้ว)บอกว่า ทำไมแกเห็นแก่ตัวอย่างนี้นะ แกไม่สงสารคนที่รักแกในอนาคตเลยเหรอที่เขาจะต้องมาทนกับหน้าแกแบบนี้ไปทั้งชีวิต แกเหมือนเป็นคนเห็นใจคนอื่นรักคนอื่นนะ แต่ไม่ใช่อะแกเห็นแก่ตัว พอผมได้ฟังประโยคนี้นี่ทำให้ได้คิดในมุมที่ไม่เคยคิด พอมานึกภาพผู้หญิงที่ผมรักต้องมาทนกับหน้าตาของผู้ชายคนหนึ่งที่ออกไปทางไม่หล่อตามค่านิยมกลาง ถึงเขาจะไม่คิดอะไร แต่ถ้าเราดูดีกว่านี้ ดูปกติอยู่ในค่านิยมกลางสักหน่อย เขาคงจะมีความสุขขึ้นสักนิดล่ะนะ พอคิดได้แบบนั้นก็เลย เอาวะลองดู ฟันเหยินมา 20 กว่าปีละ ลองเป็นคนฟันไม่เหยินในช่วงชีวิตที่เหลือดู อย่างน้อยก็เพื่อคนที่เรารัก (ที่ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่าดู)

ปี 2024 ทำอะไรดีล่ะ

  • ปลูกต้นไม้

    หลังจากคิดหาอะไรทำมานานก็มาคิดถึงอะไรที่ทำแล้วไม่ต้องคอยดูตลอด แต่ต้องไปดูแลบ้าง คิดไปคิดมาก็ซึ่งสิ่งนั้นก็คือการปลูกต้นไม้ เพราะเราไม่ต้องคอยเฝ้าจับตามันตลอดเวลามันก็สามารถเจริญเติบโตเองได้ แต่เราก็ต้องไปดูแลมันบ้าง ซึ่งถือเป็นงานอดิเรกที่ไม่แน่นและไม่หลวมจนเกินไป

  • ออกกำลังกาย

    จริงๆปีนี้ก็ออกกำลังกายนะ แต่ออกบ้างไม่ออกบ้างไม่มีวินัยในตัวเองเท่าไหร่ ปีนี้จะพยายามมีวินัยให้มากกว่านี้ กินอาหารตามหลักการให้จริงจังมากขึ้น ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น

  • ทำช่อง Youtube ต่อ

    ปีนี้ก็จะทำช่อง Youtube ต่อโดยจะทำเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง code ให้เยอะขึ้นเพราะตอนนี้ช่องจะกลายเป็นช่อง Review หนังไปแล้ว

ปีนี้ได้ผ่านไปแล้ว เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้วเหลือเป็นเพียงความทรงจำไว้ระลึกถึงในตอนแก่เฒ่า เราทำได้เพียงอยู่กับปัจจุบันใช้ทุกวินาทีที่ย้อนกลับไม่ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ แล้วเจอกันใหม่ในปีหน้าตอนที่กลับมาอ่าน

Nobody knows

เพลงที่ได้ฟังในปีนี้

ยื้อ
ร้องไปกับฟ้า
หมากับเงา
คนขี้อิจฉา
ฤดูหนาว
จะหมัดจะมวย
ทนได้ทุกที
วาระเมิดใจ
กอดเสาเถียง
ขอบใจเด้อ
พลังรัก
ซังได้ซังแล้ว
อยู่ข้างหางตา
บ่ต้องอ้อนวอน
ฉันยังเก็บไว้
ภาพฝัน
แค่บอกว่ารักเธอ
หลงกล
ทำไมเป็นคนแบบนี้
ถามใจ
ปิดทองหลังใจ
พรที่ดี
ง่ายเกินไป
เร้น
นางฟ้ากับควาย
แค่ได้คิดถึง
ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ
ซังได้ซังแล้ว
ความรักทำให้คนตาบอด
หากันจนเจอ
หนักใจ